ระยะเวลาโครงการ
ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
จำนวนสิทธิโดยประมาณ 20 ล้านสิทธิหรือจนกว่าจะครบวงเงินสิทธิในวงเงินไม่เกิน 44,000 ล้านบาท
หรือถึงปิดลงทะเบียนวันสุดท้ายในวันที่ 26 ตุลาคม 2568 แล้วแต่เกณฑ์ใดจะถึงก่อน
การสแกนจ่ายเงินผ่านโครงการ ต้องมีการซื้อสินค้า/บริการจริงตรงตามมูลค่าที่สแกนจ่าย
ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการถอนเงินสด หรือรับแลกสินค้า/บริการคืนเป็นเงินสดไม่ว่ากรณีใด
สำหรับประชาชน
ระยะเวลาการลงทะเบียนและใช้สิทธิ
ในโครงการคนละครึ่ง พลัส
คนละครึ่งคนละครึ่ง
สำหรับประชาชน
การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง พลัส
เริ่มลงทะเบียนสำหรับประชาชนผ่านแอปฯ เป๋าตัง วันที่ 20 - 26 ต.ค. 68 เวลา 06:00 - 22:00 น.
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ​
  1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
  4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
  5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่
    (1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
ช่องทางลงทะเบียน
  • ลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปฯ เป๋าตัง​
  • ผู้ที่เคย เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง
  • ผู้ที่ไม่เคย เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่าน SMS และแอปฯ เป๋าตัง​
iกรุณาสมัครบริการ G Wallet ก่อนใช้สิทธิโครงการบนแอปฯ เป๋าตัง
เงื่อนไขการใช้สิทธิสำหรับประชาชน
  • ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส ใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 68 ก่อนเวลา 23:00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ​
  • ใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง พลัส กับร้านค้าที่ร่วมโครงการ ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68 เวลา 06:00 - 23:00 น. โดยชำระผ่าน G Wallet
สำหรับประชาชน
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
เงื่อนไขการใช้สิทธิคนละครึ่ง พลัส สำหรับประชาชน
  • ก่อนใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิจะต้องตรวจสอบสิทธิคงเหลือและเงื่อนไขการใช้สิทธิ
  • การซื้อ - ขายสินค้า/รับ - ให้บริการ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR เพื่อชำระค่าสินค้า/บริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) ไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์หรือคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด
  • ใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 06:00 - 23:00 น. ของทุกวัน
  • ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการกระทำการใดๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินการของมาตรการ/โครงการใดๆ ของรัฐ
กรณีซื้ออาหาร/เครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี)
  • การใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีเดลิเวอรีจะต้องเป็นการซื้อขายสินค้าเฉพาะประเภทอาหาร/เครื่องดื่มโดยประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น
  • รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น
  • ใช้สิทธิตามโครงการเพื่อสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ตั้งแต่ 06:00 - 21:00 น. ของทุกวัน
  • ห้ามมีการรับหรือเรียกเงินทอนเป็นเงินสด หรือประโยชน์รูปแบบอื่นนอกจากการสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี ไม่ว่ากรณีใด
  • การซื้อ-ขายอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีจะต้องเป็นการซื้อ-ขายกันจริง โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันหรือเป็นบุคคลเดียวกัน
iห้ามผู้เข้าร่วมโครงการกระทำการใดๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินการของมาตรการ/โครงการใดๆ ของรัฐ
สำหรับร้านค้าและฟู้ดเดลิเวอรี
ระยะเวลาการลงทะเบียนและใช้สิทธิ
ในโครงการคนละครึ่ง พลัส
คนละครึ่งคนละครึ่ง
สำหรับร้านค้าและฟู้ดเดลิเวอรี
การลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง พลัส
สมัครเข้าร่วมโครงการ ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. - 19 ธ.ค. 68
คุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
  1. เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้
    • ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
    • ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ
    • ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ
    • ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)
  2. ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
  3. เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้
    • ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
    • ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ
    • ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ
  4. ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
  5. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้
    • ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    • ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น
  6. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่
    รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)
  7. เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567
    ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568
  8. ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
  9. ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่
    (1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
  10. ประเภทสินค้าและบริการ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ
    โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า
  11. ทั้งนี้การกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าและบริการของโครงการฯให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด
ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
สำหรับร้านค้าถุงเงินที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) และผ่านการอนุมัติเข้าร่วมโครงการ
  1. อัปเดตแอปฯ ถุงเงินให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด และตรวจสอบบัญชีรับเงิน
  2. กดแบนเนอร์โครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงของโครงการ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 68 เป็นต้นไป
การเตรียมพร้อมสำหรับร้านค้าใหม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ
  1. มีบัญชีธนาคารกรุงไทย และสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินสำเร็จ
  2. เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
  3. ตรวจสอบประเภทกิจการและดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัคร ไปยื่นสมัครกับหน่วยงานดังนี้
    1. หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย (แบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับกระทรวงมหาดไทย)
      • ร้านอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป
      • ร้านค้า/บริการ ของวิสาหกิจชมชน
      • ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสาร เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น
      • ร้านทำผม ทำเล็บ
    2. หน่วยงานธนาคารกรุงไทย (แบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับธนาคารกรุงไทย)
      • ผู้ประกอบการขนส่งต้องมีใบอนุญาตขนส่งสาธารณะ เช่น Taxi-meter, รถตู้โดยสารสาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น
      • ร้านให้บริการนวด สปา ร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก รายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (ยื่น ภ.ง.ด. 50 รอบบัญชี 67 ข้อมูล ณ 30 ก.ย. 68)
      • ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (ของ สทบ.)
  4. นำเอกสารที่ได้รับการยืนยันประกอบกิจการจริง มายื่น ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ร้านค้าตรวจสอบผลอนุมัติเข้าร่วมโครงการผ่านแอปฯ ถุงเงิน
  1. ร้านค้าที่ผ่านการอนุมัติจะได้รับ SMS และปรากฏแบนเนอร์คนละครึ่ง พลัสบนแอปฯ ถุงเงิน ทั้งนี้ผลการพิจารณาจะเป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ
  2. เริ่มรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68 เวลา 06:00 - 23:00 น.
สำหรับร้านค้าที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ฟู้ดเดลิเวอรี
  1. ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่ได้รับการอนุมัติผ่านเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. - 19 ธ.ค. 68
  2. กดแบนเนอร์ “โครงการฟู้ดเดลิเวอรี” บนแอปฯ ถุงเงิน เพื่อยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข
  3. เริ่มรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. - 31 ธ.ค. 68 เวลา 06:00 - 21:00 น.
iหมายเหตุ: เจ้าหน้าที่รัฐผู้ยืนยันประเภทกิจการร้านค้า ตามเงื่อนไขโครงการ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน (อ่านเพิ่มเติม)
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการของร้านค้า
  • ต้องสมัครเป็นร้านค้าถุงเงิน
  • ได้รับการอนุมัติเป็นร้านค้าคนละครึ่ง พลัส โดยหน่วยงานรัฐ
  • ร้านค้าที่ได้รับการอนุมัติ ต้องกดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขโครงการ ก่อนรับสิทธิ
  • ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถสมัครเข้าร่วมแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี ได้ 1 แพลตฟอร์มเท่านั้น
  • ร้านค้าฟู้ดเดลิเวอรี รับออร์เดอร์ ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 68 ก่อนเวลา 21:00 น.
สำหรับร้านค้าและฟู้ดเดลิเวอรี
การรับเงินของร้านค้าผ่าน 2 ช่องทาง
คนละครึ่งคนละครึ่ง
คนละครึ่งคนละครึ่ง
สำหรับร้านค้าและฟู้ดเดลิเวอรี
เงื่อนไขการลงทะเบียน
เงื่อนไขการลงทะเบียนคนละครึ่ง พลัส สำหรับผู้ประกอบการ (ร้านค้า)
  • ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ
  • ต้องไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใดๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
  • การซื้อ-ขายสินค้า / รับ-ให้บริการผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้า/บริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) โดยไม่มีการดำเนินการไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด
  • รับชำระค่าสินค้า/บริการที่รัฐสนับสนุนวงเงินร่วมจ่าย
  • ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (Gift Voucher/Gift Card) บัตรเงินสด (Cash Card) และสินค้า/บริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระล่วงหน้า (prepaid)
  • การซื้อสินค้า/บริการจริงตรงตามมูลค่าที่สแกนจ่าย ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการทอนเงินสดหรือรับแลกสินค้า/บริการคืนเป็นเงินสด ไม่ว่ากรณีใด
  • ห้ามปฏิเสธการใช้สิทธิตามโครงการของลูกค้าหากยังมีสิทธิเหลืออยู่ เว้นแต่เป็นความผิดของลูกค้าหรือเป็นเหตุสุดวิสัยอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
  • ห้ามผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการ/โครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการ/โครงการใด ๆ ของรัฐ ห้ามผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกระทำการใดๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินการของมาตรการ/โครงการใดๆ ของรัฐ
กรณีการขายอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี
  • ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ จะต้องเป็นผู้ประกอบการที่ขายสินค้าประเภทอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น
  • รัฐจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหาร/เครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น
  • ผู้ประกอบการสามารถขายอาหาร/เครื่องดื่มตามโครงการผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ตั้งแต่ 06:00 - 21:00 น. ของทุกวัน
  • ห้ามมีการรับหรือทอนเป็นเงินสด หรือประโยชน์รูปแบบอื่นใดจากการสั่งอาหาร/เครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร ไม่ว่ากรณีใด
  • การซื้อ-ขายอาหาร/เครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีจะต้องเป็นการซื้อ-ขายกันจริง โดยผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกันหรือเป็นบุคคลเดียวกัน
  • ผู้ประกอบการสามารถเลือกผูกกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ 1 แพลตฟอร์ม เท่านั้น
  • ผู้ประกอบการสามารถเลือกระงับการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีตามโครงการได้โดยสมัครใจ โดยไม่ถือว่าเป็นการปฎิเสธการใช้สิทธิของประชาชน
iห้ามผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการกระทำการใดๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินการของมาตรการ/โครงการใดๆ ของรัฐ

คู่มือสำหรับฟู้ดเดลิเวอรี่ แอป ฯ

ลงทะเบียนสำหรับประชาชน

เริ่มลงทะเบียน
20-26 ต.ค. 68 ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
ตั้งแต่เวลา 06:00-22:00 น
เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน
  • ประชาชานที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งมาก่อน กดปุ่มยืนยันสิทธิ และใช้สิทธิภายในวันที่ 13 พ.ย. 68​
  • ประชาชานที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัสมาก่อนต้อง ลงทะเบียนและกดยืนยันสิทธิ โดยใช้สิทธิภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับ SMS ยืนยันการรับสิทธิ​
  • ช่วงเวลาการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัสกับร้านค้าที่ร่วมโครงการ ตั้งแต่ 06:00-23:00 น. โดยชำระเงินผ่าน G Wallet
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ​
  • อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน​
  • มีบัตรประชาชน สัญชาติไทย
  • ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ​
  • ไม่เป็นผู้อยู๋ในรายชื่อบัญชีม้า (TBC)

ลงทะเบียนสำหรับร้านค้าใหม่

เริ่มลงทะเบียน
รับสมัครร้านค้าเข้าร่วม โครงการคนละครึ่งพบัส ผ่านธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศ ในเวลาทำการ ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 68.
เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการสำหรับร้านค้าใหม่
  • คุณสมบัติและประเภทกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้
    คลิกอ่านรายละเอียด
  • ไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล
  • ไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์
** สำหรับร้านค้าในโครงการคนละครึ่งเดิม ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ให้ดำเนินการอัปเดตเวอร์ชั่นถุงเงินให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อยืนยันการเข้าร่วมโครงการ
ช่องทางการลงทะเบียนร้านค้าใหม่
  • ธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศ ในเวลาทำการ
คุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
  • สถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง สามารถตรวจสอบได้​
  • เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป หรือ บริการ นวด สปา ทำผม ทำเล็บ​
  • บริการขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทย​
  • ไม่ใช่นิติบุคคลและไม่ใช่บุคคลธรรมดาที่เป็นกรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของนิติบุคคลที่มีการประกอบธุรกิจร้านค้าอาหารเครื่องดื่ม สินค้าทั่วไปในประเภทเดียวกันกับได้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ​
  • เป็นผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547
  • เป็นร้านค้า ธงฟ้าราคาประหยัด​ (TBC)
  • ไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อธุรกิจแฟรนไชส์​

ร้านค้าคนละครึ่ง จะได้รับเงินจากการขายสินค้า
อาหาร และเครื่องดื่ม แยกเป็น 2 ส่วนดังนี้

ส่วนที่ 1 เงินส่วนที่ประชาชนชำระ (G Wallet)
ร้านค้าจะได้รับเงินในช่วงเช้ามืด (02:00 เป็นต้นไป)
3 วันถัดไปนับจากวันที่ทำรายการ (T+3)
ส่วนที่ 2 เงินส่วนของภาครัฐ (สิทธิคนละครึ่ง พลัส)
ร้านค้าจะได้รับเงินในช่วงเย็น (18:00 เป็นต้นไป)
3 วันถัดไปนับจากวันที่ทำรายการ (T+3)
วันรับเงินโอนเข้าบัญชีสำหรับร้านค้าคนละครึ่ง
ส่วนที่ 1 เงินส่วนที่ประชาชนชำระ (G Wallet)
ร้านค้าจะได้รับเงินในช่วงเช้ามืด (02:00 เป็นต้นไป) ของวันถัดไป
ส่วนที่ 2 เงินส่วนของภาครัฐ (สิทธิคนละครึ่ง พลัส)
ร้านค้าจะได้รับเงินในช่วงเย็น (17:30 เป็นต้นไป) ของวันถัดไป
วันรับเงินโอนเข้าบัญชีสำหรับร้านค้าคนละครึ่ง
ติดต่อเรา
ศูนย์ช่วยเหลือผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส
comment
ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชน

ศูนย์ช่วยเหลือ สำหรับร้านค้า

สอบถามข้อมูลโครงการ      

FPOMOFKrungthai
Copyright © 2025
ติดต่อสอบถาม